เช้านี้ ผมดื่มกาแฟพร้อมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
“เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี” ของ Jimmy Lao
“เห็นว่า (ชื่อผม) ชอบอ่าน เลยเอามาให้ยืม” เธอบอกผมอย่างนั้นตอนยื่นหนังสือเล่มนี้ให้เมื่อวันก่อน
.
ผมยิ้มกว้างอย่างยินดี ผมจะได้อ่านหนังสือเล่มเดียวกับที่หลานอ่าน ได้หัวเราะและยิ้มบนภาพเดียวกัน
ผมว่านั่นคือสเน่ห์ของการอ่านหนังสือที่เปลี่ยนมือไปเรื่อย ๆ
วันรุ่งขึ้น หนังสือของ Jimmy เล่มอื่นที่ผมมี ก็ส่งต่อไปให้หลานตัวเล็กอ่านบ้าง
“แลกกัน” ผมบอกเพื่อนผมหรือแม่ของหลานผมว่างั้น
ผมชอบให้หนังสือของผมเดินทาง ให้คนได้ยิ้มกว้าง ๆ หลายคน มันดีกว่าเก็บไว้กับตัวคนเดียว ผมคิดอย่างนั้น
ชายผู้โชคดีในหนังสือเล่มนี้ เขาคือคนที่คนอื่นคิดว่าเขาโชคดี
แต่เขากลับเป็นคนที่เหงาที่สุดในโลกของเขา
คนเรามักคิดว่าคนอื่นโชคดี โดยเปรียบเทียบกับตัวเราเสมอ
และเราก็มักจะลืมมองถึงสิ่งที่ตัวเองมี ท้ายสุดเราอาจจะไม่ได้ต้องการสิ่งที่มากไปกว่าสิ่งที่เรากำลังมี
บ่อยครั้ง ผมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
ตัวการ์ตูนในหนังสือเล่มนี้บอกกล่าวอะไรกับผมมากกว่าภาพวาดสวย ๆ
ผมจบการอ่านรอบแรกพร้อมกับกาแฟที่หมดลง
ผมกำลังจะเดินทางไปทำงานอีกที่วันนี้ กับการนั่งรถไฟใต้ตินด้วยระยะทางตั้งแต่ต้นสายยันปลายสาย
ทุกครั้งที่ผมขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ รถไฟใต้ดิน แม้กระทั่งเดินอยู่บนถนนในเมืองใหญ่แห่งนี้ ผมพบว่า พวกเราดูเหงาเหลือเกิน
เมืองนี้ มีคนเหงามากไปจริง ๆ หนี่งในนั้นก็รวมผมไปด้วยในบางวัน
แต่กระนั้น ผมก็หวังว่าพวกเขา แม้จะเหงา แต่อย่างน้อยก็ให้รู้สึกว่าตัวเองโชคดี
แม้จะดูไม่เกี่ยวกัน แต่ผมคิดเอาเองว่า การที่มีชีวิตอยู่แต่ละวัน นับเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
……
ฟังเพลงฮะ [@coffee shop]
เป็นคนที่เหงา ได้อย่างมีความสุขที่สุดเลย :)
แค่เหงา ก็เริ่มทุกข์แล้ว
หากทำให้มีความสุขเจือบ้าง มันก็น่าจะดี ว่าไหม ?